สาวเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า เปิดใจ รถตากฝน 20 นาที แบตพัง เจอค่าซ่อมล้านกว่า ค่าแบต 7.5 แสน

 

สาวเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า เปิดใจ รถตากฝน 20 นาที แบตพัง เจอค่าซ่อมล้านกว่า ค่าแบต 7.5 แสน

สาวเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า เปิดใจ รถตากฝน 20 นาที แบตพัง เจอค่าซ่อมล้านกว่า ค่าแบต 7.5 แสน

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟสบุ๊ค โพสต์ร้องเรียนลงในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค หลังจอดรถยนต์ไฟฟ้าตากฝนแค่ 20 นาที ปรากฏว่าแบตเตอรี่พัง ค่ากว่า 1 ล้านบาท โดยระบุว่า แค่จอดรถหน้าบ้าน ขณะฝนตก 15-20 นาที แบตเตอรี่ก็พังแล้ว โชว์รูมเขาบอกมา เสนอราคา ค่าซ่อม เปลี่ยนแบตเตอรี่รวมอื่นๆ ต่างๆ นานา บอกมาเกือบๆ 1.1 ล้าน เชียวนะคะ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2567 นางสุภิณญา เจ้าของรถ เปิดเผยกับ ข่าวสดออนไลน์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ค.67 ตนทำงานอยู่ที่บ้าน โดยจอดรถยนต์บริเวณหน้าบ้าน ต่อมาเกิดฝนตกหนัก แต่ตนประชุมงานกับหัวหน้าที่เนเธอร์แลนด์อยู่ ต่อมาประมาณ 15-20 นาที ตนประชุมเสร็จออกไปดูรถ เห็นน้ำท่วมขังใต้ท้องรถ จึงรีบเคลื่อนย้ายรถทันที จากนั้นได้นำรถออกไปรับลูกที่โรงเรียน เมื่อไปได้ไม่ไกล ระบบรถเกิดขัดข้องจึงนำเข้าข้างทาง ก่อนรถดับสนิท จึงโทรเรียกประกัน และส่งเคลมทันที

ซึ่งรถคันดังกล่าวตนเพิ่งออกมาเมื่อเดือนธันวาคมปี พ.ศ.2566 สำหรับสาเหตุนั้น ตนคาดว่าอาจเกิดจากความชื้น เนื่องจากฝนตกหนัก และทำให้เกิดน้ำท่วมขังใต้ท้องรถ มองว่าคุณภาพของแบตเตอรี่ต่ำมาก เพราะไม่สามารถป้องกันเรื่องของความชื้นที่เกิดฝนตกได้ อีกทั้งรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้มีช่วงล่างที่ต่ำด้วย จึงเกิดคำถามว่าแบตเตอรี่นั้นเซนซิทีฟเกินไปหรือไม่สำหรับสภาพอากาศประเทศไทย หรือหากจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าต้องซื้อรถที่ช่วงล่างสูงเท่านั้นหรือไม่ ไม่เช่นนั้นอาจจะเจอเหตุการณ์แบบตน



อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ตนส่งซ่อมนั้น ตนไม่ได้การเยียวยาค่าเดินทาง ไม่มีรถสำรอง และไม่ได้รับคำตอบว่าจะซ่อมเสร็จเมื่อไหร่ อีกทั้งยังพบว่าค่าซ่อมนั้นสูงถึง 1.1 ล้านบาท แค่ค่าแบตฯก็ 7.5 แสนบาทแล้ว ตนทุกข์ใจมาก เพราะมันกระทบไปถึงลูกตนที่เรียนอยู่ชั้น ม.3 ตนใช้เงินค่าเดินทางไปเกือบ 3 สัปดาห์ จนตนไม่มีเงินไปส่งลูกไปโรงเรียน ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม ไม่มีเงินจ่ายค่าเรียนพิเศษของลูก ตนถึงกับร้องไห้ออกมาเพราะเครียดมาก ลูกตนคงเห็นใจตน และบอกกับตนว่าเขาหยุดเรียนไปก่อนได้ และค่อยไปตามเรียนแทน ตนได้ยินเช่นนั้นแล้วปวดใจมาก เพราะเรื่องของลูกมาเป็นอันดับ 1 สำหรับตน ตนเคยคิดว่าหากตนไม่มีลูกตนคงฆ่าตัวตายไปแล้ว เพราะเครียดมาก ๆ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ไปขอร้องทั้งบริษัทประกัน และบริษัทรถยนต์ ให้ช่วยหาทางออกให้ตน

ทั้งนี้การที่ตนออกมาโพสต์เรื่องราวดังกล่าวนั้น ตนไม่มีเจตนาอยากจะโจมตีใคร เพียงแต่ตนอดทนรอความเป็นธรรมมาร่วมเดือนแล้ว ตนอดทนไม่ไหวแล้ว ตนไม่พอใจกับการบริการของทั้งบริษัทประกันภัย และบริษัทรถ ที่ไร้ความรับผิดชอบ โยนกันไปมา ให้ตนต้องทนทุกข์มากว่า 3 สัปดาห์ อีกทั้งรถคันดังกล่าวก็มีราคาสูงเกือบ 2 ล้านบาท แต่การบริการนั้นไม่สมกับราคาของรถและความไว้วางใจที่ตนมีให้เลย เหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนอันล้ำค่าแก่ตนเลย ว่าการที่จะตัดสินใจซื้อรถคันหนึ่งนั้น จะต้องมีการตรวจสอบพื้นที่ที่จะใช้รถ คุุณภาพของรถ และประภันภัย

สำหรับความคืบหน้าล่าสุดหลังเป็นข่าวนั้น ทางบริษัทประกันภัยติดต่อมาว่าสามารถจัดหารถยนต์สำรองในระหว่างส่งรถของตนเขาซ่อมได้แล้ว โดยจะมาจัดส่งให้ในช่วง 10.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (9 มิ.ย.67) รวมถึงได้รับการชดเชยค่าเดินทาง 35,000 บาท ที่ตนจ่ายออกไปก่อนหน้านี้ ระยะเวลา 25 วัน วันละ 1,400 บาท พร้อมจะนำกระเช้ามาขอโทษถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

โดยขอให้ตนลบโพสต์ที่ร้องเรียนไปกลุ่ม ‘พวกเราคือผู้บริโภค’ ออกไป ในขณะเดียวกันตนเพิ่งได้รับการเยียวยาจากบริษัทรถยนต์แล้ว โดยส่งรถสำรองมาให้ใช้แล้วเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา จากที่ตนไปขอรถสำรองมาใช้เป็นสิบๆ ครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทั้ง 2 บริษัทยืนยันว่าไม่สามารถส่งรถให้ตนได้ และให้ตนรอการช่วยเหลือไปก่อน หรือแม้กระทั่งใบเสนอราคาซ่อมที่พุ่งไปสูงถึง 1.1 ล้าน แต่หลังจากที่เป็นข่าวกลับกลายเป็นว่า ราคาซ่อมเหลือเพียงแค่ประมาณ 7-8 แสน ซึ่งคือค่าแบตเตอรี่เท่านั้น ตนยังรอคำชี้แจงจากทางบริษัทรถยนต์ต่อไป

โดยก่อนหน้าที่ตนไปแจ้งความ และเตรียมยื่นเรื่องทาง สคบ. และแต่งตั้งทนายดำเนินการเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย พร้อมกับเตรียมไปกู้เงินเพื่อไปซื้อรถมือ 2 มาใช้เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ แต่หลังจากที่ตนได้รับการช่วยเหลือ และเยียวยาแล้ว ตนก็ยินดีให้อภัย และจบเรื่อง แต่อยากให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนแก่ทั้ง 2 บริษัท ว่าควรปรับปรุงเรื่องการบริการลูกค้าหลังการขายให้ดีมากกว่านี้ เพราะหากบริการเช่นนี้จะเป็นการทำลายชื่อเสียงของบริษัทเอง


Post a Comment

Previous Post Next Post